นักปั่นหลายๆ คน บ่นว่าการปั่นไม่สามารถช่วยให้ลดรอบเอวลงได้เลย ไม่ว่าจะปั่นนานแค่ไหนในแต่ละวัน ทำให้เกิดความท้อแท้ พาลจะเลิกความพยายามในการขจัดห่วงยางที่หน้าท้องไปเสียก่อน... เรื่องนี้ถือเป็นปัญหาของคนที่อยากลดพุงทุกคน ทางแก้ต้องเริ่มจากการวิเคราะห์ตัวเราเสียก่อนว่า ทำอะไรผิดพลาดไป เพราะ... เมื่อเราออกกำลังกาย พลังงานสะสมในร่างกาย (ที่อยู่ในรูปไขมันและน้ำหนักส่วนเกิน) ของเราต้องถูกนำออกไปใช้งาน ยิ่งออกกำลังกายมากมันก็ควรจะถูกนำไปใช้มาก ถ้ารอบเอวหรือหน้าท้องไม่ยอมลดทั้งๆ ที่ออกกำลังกายมากแล้ว นี่คือเรื่องที่... ผิดปกติ ! ขอให้ลงจากรถหยุดปั่น และวางหรือผละจาก อุปกรณ์ฟิตเนส ทุกชนิดที่คุณใช้อยู่แล้วมาอ่านเรื่องนี้ให้จบ !
1. 1. ดูนิสัยการกินของตัวเอง ! การออกกำลังจุดประสงค์เพื่อใช้พลังงานส่วนเกินออกไป ถ้ามีพฤติกรรมกินอาหารที่มีพลังงานสูงกว่าที่ใช้งานออกไป ยังไงมันก็ไม่มีทางลด
2. 2. ดูระยะเวลาการออกกำลังกาย โดยทั่วไปการปั่น ด้วยอัตราเร็ว 15 กิโลเมตร/ชั่วโมง 30 นาที ใช้พลังงานไปประมาณ 350-400 กิโลแคลอรี่ เป็นพลังเท่ากับเราทานขนม กะหรี่พัฟ 2 ชิ้นเท่านั้นเอง ดังนั้นต้องดูปริมาณพลังงานที่เราใช้ไป เทียบกับพลังงานในอาหารที่เราทานเข้าไปด้วย
3. 3. ดูช่วงเวลาในการออกกำลังกาย ช่วงที่เหมาะที่สุดในการออกกำลังเพื่อลดหน้าท้อง ลดน้ำหนัก คือ ช่วงเช้าก่อนรับประทานอาหาร เพราะเป็นช่วงที่เราจะได้ใช้พลังงานสะสมออกไป
4. 4. ดูเครื่องดื่มที่ดื่มเป็นประจำ นี่อาจดูเป็นเรื่องเล็กๆ แต่มีผลมาก เพราะหากคุณมีนิสัยชอบทานกาแฟเย็นในช่วงบ่ายนี่อาจเป็นตัวที่ทำให้การลดหน้าท้องของคุณไม่ได้ผล เช่น กาแฟเย็นมอคคา 1 แก้วมีพลังงานจากน้ำตาลนมและครีมมากถึง 580 กิโลแคลอรี่ !
จะเห็นได้ว่ามันอยู่ที่การวัดปริมาณแคลอรี่เป็นหลัก เครื่องปั่นจักรยานออกกำลังกาย หรือ จักรยาน ที่มีตัววัดปริมาณแคลอรี่ สามารถช่วยได้ในเรื่องนี้ แต่ต้องไม่ลืมดูปริมาณแคลอรี่ที่รับประทานเข้าไปในแต่ละวันด้วย จงจำไว้ว่าต้องใช้พลังงานออกให้มากกว่าพลังงานที่รับเข้า จึงจะสามารถประสบความสำเร็จในการลดพุง !
หน้าที่เข้าชม | 933,571 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 605,673 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 13 ก.ย. 2568 |