“น้ำคือชีวิต” นี่เป็นคำกล่าวที่เป็นจริง เพราะหากไม่มีน้ำดาวโลกของเราดวงนี้คงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะมีสิ่งมีชีวิตทั้งหลายรวมถึงพวกเราปรากฏขึ้นมา และในร่างกายของคนเราก็มีน้ำเป็นส่วนประกอบอยู่ถึง 70% น้ำ จึงมีความจำเป็นมากต่อสุขภาพร่างกายของคนเรา ในคนที่ออกกำลัง ไม่ว่าจะเป็นการออกกำลังด้วยการวิ่ง การเตะฟุตบอลในสนาม หรือจะเป็นการเล่น อุปกรณ์ฟิตเนส ในร่มล้วนแต่ต้องได้รับน้ำเข้าไปในร่างกายเพื่อชดเชยส่วนที่ขาดหายไปจากการออกกำลัง
ตามปกติคนเราได้รับการแนะนำให้ดื่มน้ำวันละประมาณ 8 แก้ว (ประมาณ 2 ลิตร) แต่ถ้าให้คำนวณละเอียดกว่านั้นก็คือ เราต้องการน้ำประมาณ 30 มิลลิลิตร ต่อ น้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม ต่อวัน เช่นถ้าคุณหนัก 60 กิโลกรัม คุณควรดื่มน้ำประมาณ 1.8 ลิตร/วัน แบบนี้เป็นต้น
แต่ในกรณีที่เราออกกำลังการดื่มน้ำต้องมีปริมาณที่มากขึ้น แต่ไม่ใช่ดื่มเข้าไปทีเดียวหลังจากออกกำลังกายเสร็จ เราควรแบ่งช่วงในการดื่มน้ำ เป็น 3 ช่วง คือ
1. 1. ก่อนการออกกำลังกาย ควรดื่มน้ำประมาณ 300 มิลลิลิตร ก่อนไปออกกำลังกายประมาณ 1-2 ชั่วโมง เพื่อช่วยชดเชยการสูญเสียน้ำออกไปกับเหงื่อในช่วงออกกำลัง
2. 2. ระหว่างออกกำลังกาย ควรจิบน้ำเป็นระยะๆ ให้ได้ปริมาณรวมสักประมาณ 350 มิลลิลิตร เพื่อช่วยระบายความร้อนและชดเชยเหงื่อที่เสียไปนอกจากนี้ยังพบว่าการจิบน้ำบ่อยๆ ในขณะออกกำลังกายทำให้กล้ามเนื้อขยายตัวได้เร็วอีกด้วย เนื่องจากมีปริมาณออกซิเจนเข้าไปในร่างกายกับน้ำเพิ่มขึ้น(เช่น ปั่น จักรยานฟิตเนส ไป จิบน้ำไป จะทำให้กล้ามเนื้อขาแข็งแรงเร็วกว่าคนที่ไม่ได้จิบน้ำในช่วงออกกำลัง)
3. 3. หลังการออกกำลังกาย ควรดื่มน้ำประมาณ 500 มิลลิลิตร (2 แก้ว) เพื่อรักษาสมดุลในร่างกายและชดเชยเหงื่อ หากออกกำลังกายนานเกิน 1 ชั่วโมงอาจจะดื่มน้ำผสมเกลือแร่สำหรับนักกีฬาเพื่อชดเชยเกลือแร่ที่เสียไป
นี่คือวิธีการดื่มน้ำที่เหมาะสมในช่วงการ ออกกำลังกาย ที่จะทำให้ร่างกายไม่เกิดภาวะขาดน้ำ และทำให้ผู้ออกกำลังมีความรู้สึกสดชื่นไม่เหนื่อยล้าจนเกินไป
หน้าที่เข้าชม | 933,594 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 605,696 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 13 ก.ย. 2568 |