เวลาในการรับประทานอาหาร ที่ดีที่สุด สำหรับผู้ ออกกำลังกาย เพื่อลดน้ำหนัก

การลดน้ำหนักเพื่อให้ได้มาซึ่งรูปร่างที่สวยงาม นอกจากการออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อย 40 – 60 นาที/วัน อย่างน้อย 5 วัน/สัปดาห์แล้ว การรับประทานอาหารให้ตรงตามเวลาเป็นประจำทุกวันก็มีผลในเรื่องประสิทธิภาพในการดูดซึมและเผาผลาญพลังงานของร่างกาย ซึ่งมีงานวิจัยรองรับว่ามันเห็นผลได้จริง ซึ่งเวลาในการออกกำลัง เราสามารถเลือกได้ว่าเป็นช่วงไหนที่เราสะดวก และสามารถออกกำลังแบบสะสม คือ อาจจะออกกำลังครั้งละ 30 นาที 2 ครั้ง/วัน ก็ได้ประโยชน์ในการลดน้ำหนักพอๆ กับการออกกำลังรวดเดียว 1 ชั่วโมง สำหรับคนในเมืองที่เร่งรีบ เราอาจจะเลือกออกกำลังที่บ้านก่อนไปทำงานปละหลังเลิกงานกลับมาบ้าน ด้วยการปั่น Spin Bike ซึ่งเราสามารถมีไว้ที่บ้าน เพื่อให้ออกกำลังได้สะดวกและทำได้เป็นประจำสม่ำเสมอ สักครั้งละ 30 นาที 2 รอบ/วัน นี่ก็เผาผลาญพลังงานให้เราได้ไม่น้อยกว่า 600 กิโลแคลอรี / วัน แล้ว แต่... เวลาไหนล่ะที่ควรรับประทานอาหาร เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุด ?

เวลาในการรับประทานอาหารที่แนะนำคือ

1.       แบ่งมื้ออาหารเป็นมื้อย่อยๆ 4 มื้อต่อวัน ประกอบด้วย 3 มื้อหลัก และ 1 มื้ออาหารว่างทานให้ตรงเวลาทุกวัน นอกเวลานั้นไม่ต้องรับประทานของทานเล่น หรือขบเคี้ยวใดๆ อีก

2.       รับประทานอาหารแต่ละมื้อห่างกันประมาณ 3-4 ชั่วโมง เพื่อประสิทธิภาพในการย่อยและดูดซึมใช้พลังงานให้หมด ช่วงเวลาระหว่างมื้อ ไม่ควรรับประทานอะไรอีก

3.       อาหารมื้อแรก ควรรับประทานในตอนเช้า ดีที่สุด คือ 1 ชั่วโมงหลังตื่นนอนซึ่งเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังต้องการพลังงานมากที่สุดหลังจากที่เราอดอาหารมาตลอดทั้งคืน

4.       ไม่ควรรับประทานอาหารอะไรในช่วง 3 ชั่วโมงก่อนนอน เพราะร่างกายจะไม่สามารถเผาผลาญดูดซึมพลังงานไปใช้ได้หมด มันจะกลายเป็นพลังงานตกค้าง ซึ่งจะไปสะสมในรูปไขมัน

5.       เริ่มทานอาหารที่เป็นโปรตีนเป็นอันดับแรกในทุกมื้ออาหาร ซึ่งการรับประทานโปรตีน จะเป็นการส่งสัญญาณให้สมองบอกร่างกายให้รู้สึกอิ่มเร็วขึ้น

นี่เป็นช่วงเวลาในการรับประทานอาหารที่ดีและร่างกายสามารถนำพลังงานไปใช้ได้อย่างเหมาะสมไม่เหลือตกค้างมากในแต่ละมื้ออาหาร ซึ่งคนที่กำลังอยู่ในช่วง ออกกำลังกาย เพื่อลดน้ำหนักควรพิจารณานำไปใช้ ควบคู่กับการจำกัดปริมาณแคลอรีในแต่ละวันให้น้อยกว่าพลังงานที่ใช้ออกไป ซึ่งทำให้เราหุ่นดีได้แน่นอน