ออกกำลังกาย หักโหมไปน้ำหนักไม่ลด แต่กลับเพิ่มนะจ๊ะ !

เห็นมาแล้วหลายรายที่พอเกิดแรงบันดาลใจ หรือมีอารมณ์อยากลดน้ำหนักขึ้นมาแล้ว จะมีปฏิกิริยาเหมือนมีไฟคุโชนอยู่ภายใน พวกเขาเหล่าเธอกลุ่มนั้นจะกัดฟัน ฟันฝ่า โหมแรงกายแรงใจทั้งหมดไปกับการออกกำลังแบบที่... แทบจะเรียกว่าเอาเป็นเอาตาย ใครเห็นคนในช่วงอารมณ์น้ออกกำลังแล้วรับรองว่าต้องตกอกตกใจ และยอมรับในแรงฮึดอันน่าอัศจรรย์เหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการออกวิ่ง เหมือนพยายามขะเป็นแชมป์มาราธอนโอลิมปิก หรือจะเป็นการ เล่น อุปกรณ์ฟิตเนส นานาชนิดในโรงยิม แบบลุยดะทุกอย่างที่ขวางหน้า !

แต่... คุณๆ เชื่อไหม ว่าคนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่ น้ำหนักไม่ลด ! และมีปริมาณจำนวนผู้ท้อแท้และเลิกลดน้ำหนักไปในที่สุดเป็นจำนวนมาก ! ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น ทั้งๆ ที่พวกเขาโหมเต็มที่ทุ่มเต็มแรงขนาดนั้น !??

เหตุผลที่คนกลุ่มที่โหมออกกำลังน้ำหนักไม่ลดเป็นเพราะ...

1.      1. เกิดการบาดเจ็บจากการออกกำลังเกิดพอดี ทำให้ต้องหยุดออกกำลังไปเป็นเวลานาน บางรายถึงกับเข็ด

2.      2. ใจร้อนเกินเหตุ วันหนึ่งออกกำลังแล้วเวียนขึ้นลงแต่เครื่องชั่งน้ำหนัก พอเห็นน้ำหนักแทบไม่ลดลงเลย ทั้งๆ ที่เหนื่อยยากแสนเข็ญ พาลทำให้ใจฝ่อห่อเหี่ยวและเลิกไปในที่สุด

3.      3. มีความเครียดสูงเกินไป ในภาวะที่มีความเครียดร่างกายจะกักไขมันเอาไว้ เป็นหนึ่งในกลไกการเอาชีวิตรอด แก้ไขไม่ได้... ดังนั้นหากอยากลดอย่าเครียด อย่าใจร้อน !

4.      4. ออกกำลังมากแล้วรู้สึกหิวบ่อย พอหิวแล้วพยายามทนเอาไว้ พอทนไม่ไหวก็กิน และมักเป็นเวลาช่วงกลางคืน และการกินในเวลาหิวจัดมักควบคุมปริมาณไม่ได้ แบบนี้น้ำหนักไม่ลดแน่นอน มีแต่จะเพิ่ม

5.      5. ฟิตช่วงแรกมากไป พอผ่านไปสักพักก็เบื่อ หาข้ออ้างไม่ออกกำลังอย่างต่อเนื่อง คือ... ทำเหมือนไฟไหม้ฟาง มาแบบโหมแรงตอนต้น แล้วดับไปอย่างรวดเร็ว...

นี่เป็นสาเหตุหลักๆ ของคนที่โหม ออกกำลังแล้วล้มเหลวในการลดน้ำหนัก จากงานวิจัยการลดน้ำหนักที่ดี ต้องออกกำลังให้ หัวใจทำงานประมาณ 60-70% ของระดับการเต้นสูงสุด เท่านั้นและต้องทำต่อเนื่องนานกว่า 30 นาที จึงจะเกิดการเผาผลาญที่เห็นผล และ... เห็นผลอย่างค่อยเป็นค่อยไป

หากคุณเป็นอีกคนที่เคยไม่ประสบผลสำเร็จจากการ ออกกำลังกาย แบบหักโหม ลองหันมากออกกำลังแบบเบาๆ ไปเรื่อยๆ แต่ต่อเนื่องและให้ได้ระดับการเต้นของหัวใจที่พอดีดูใหม่เถอะ รับรองได้ผลดีกว่าแน่นอน ! อาจจะเป็นการปั่น จักรยานออกกำลังกาย ไปเรื่อยๆ สัก 30-60 นาที แทนการพยายามวิ่งสร้างสถิติโลกแบบเดิมรับรองเห็นผลดีกว่า !