เวลาใช้ เครื่องออกกำลังกาย เราควรดื่นน้ำมากแค่ไหน

หากถามว่าสิ่งใดขาดไม่ได้เลยในการออกกำลังกาย คำตอบที่ได้น่าจะเป็น “น้ำ” ทั้งนี้เนื่องจากในช่วงที่เราออกกำลังกายนั้น ร่างกายจะเกิดความร้อน และมีการขับเหงื่อ ซึ่งเป็นน้ำในร่างกายออกมาเพื่อลดความร้อนในร่างกาย ทำให้ร่างกายเย็นลง ไม่เกิดอาการความร้อนในร่างกายสูงเกินไปจนไม่สบายได้ และเมื่อเป็นเช่นนั้น ร่างกายก็จะสูญเสียน้ำออกไปเป็นจำนวนมาก และต้องการน้ำเข้าไปชดเชยในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อไม่ให้ภาวะขาดน้ำ ที่ส่งผลเสียต่อร่างกาย อย่าลืมว่าร่างกายคนเราส่วนใหญ่ประกอบด้วยน้ำ และมีทุกส่วนตั้งแต่ในระดับเซลล์เนื้อเยื่อ ไปจนถึงอวัยวะทุกส่วนล้วนต้องการใช้น้ำทั้งสิ้น

หากขาดน้ำ การลำเลียงสารอาหารและออกซิเจนไปเลี้ยงส่วนต่างๆ จะเริ่มลดประสิทธิภาพลง กล้ามเนื้อจะเริ่มอ่อนแรง อาจมีอาการหน้ามืดเป็นลมเพราะออกซิเจนไม่พอ และอาจมีปัญหาเกี่ยวกับผลอดเลือดและหัวใจได้ เพราะเลือดจะมีสภาพข้นหนืด การดื่มน้ำชดเชยจึงมีความจำเป็นมาก แต่อย่างไรก็ตามยังเป็นคำถามอยู่ว่าเราควรดื่มน้ำในปริมาณมากขนาดไหน จึงจะเรียกว่าเพียงพอและเหมาะสม ในช่วงที่เราเล่นกีฬา หรือใช้ อุปกรณ์ออกกำลังกาย ประเภทต่างๆ ได้อย่างไม่มากไม่น้อยเกินไป

จากการประเมินโดยผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลัง มีการแนะนำให้มีการดื่มน้ำแบ่งออกเป็น 3 ช่วง คือ

1. ดื่มน้ำก่อนออกกำลังกาย ปริมาณราวๆ 300 – 400 cc แต่ไม่ใช่ว่าดื่มน้ำในปริมาณนี้รวดเดียวแล้วออกกำลังกายทันที เพราะทำให้จุกได้ ควรดื่มก่อนออกกำลังกายประมาณ 20 นาที เพื่อรอให้น้ำถูกดูดซึมเข้าสู่ระบบต่างๆ ของร่างกายเสียก่อน
2. ดื่มน้ำระหว่างออกกำลังกาย ควรมีการจิบน้ำในช่วงที่ออกกำลังกายด้วย ที่ใช้คำว่าจิบนั้นถูกต้องแล้ว คือ จะต้องจิบทีละน้อยแต่บ่อยๆ ไม่ใช่การดื่ม เวลาที่ควรจิบก็คือ เมื่อเรารู้สึกว่าปากแห้ง นั่นเป็นสัญญาณว่าปริมาณน้ำในร่างกายลดลง
3. ดื่มน้ำหลังออกกำลังกาย ในช่วง 30 นาที หลังจากออกกำลังกาย ควรมีการดื่มน้ำเข้าไปอย่างช้าๆ ในระหว่างพัก ประมาณ 300-400 cc เพื่อชดเชยปริมาณน้ำที่สูญเสียไปกับเหงื่อและลมหายใจ

การดื่มน้ำที่เหมาะสมในระหว่างการเล่นกีฬา หรือใช้ เครื่องออกกำลังกาย จะทำให้เราออกกำลังกายได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเป็นผลดีต่อสุขภาพร่างกาย