อาการปวดที่ฝ่าเท้า จนบางทีเดินลงน้ำหนักบนเท้าแทบไม่ได้ หรือที่เรียกว่า อาการรองช้ำ หรือ อาการเส้นเอ็นฝ่าเท้าอักเสบ เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้กับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก หรือผู้ที่ออกกำลังกายอย่างไม่เหมาะสมกับสภาพเท้าของตนเอง สาเหตุของโรครองช้ำ เกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น น้ำหนักตัวมากแต่ต้องยืนหรือเดินนานๆ ทำให้เกิดการกดทับของน้ำหนักลงบนเส้นเอ็นฝ่าเท้าอย่างต่อเนื่องจนเกิดการบาดเจ็บ , การออกกำลังกายอย่างหักโหม หรือเกิดการบาดเจ็บแล้วยังฝืนไม่หยุดพัก มักพบในผู้ที่ออกกำลังกายด้วยการวิ่งที่ไม่ถูกท่า หรือเลือกใช้รองเท้ากีฬาที่ไม่เหมาะสม หรือ อาจจะเป็น รูปทรงเท้าที่แบนกว่าปกติ หรือมีลักษณะผิดรูป และยังรวมไปถึง ป่วยจากโรคข้อและกระดูกอย่างรูมาตอยด์ หรือโนคเก๊าท์ ก็ได้อีกด้วย ซึ่งเมื่อเกิดอาการนี้ขึ้นจะสร้างความทรมานและเป็นอุปสรรคอย่างมากกับผู้ป่วย ยิ่งในคนที่มีน้ำหนักมากอาจเกิดเป็นอาการป่วยเรื้อรัง วิธีที่ดีคือ การลดน้ำหนักตัว และเพิ่มความแข็งแรงให้เส้นเอ็นและกล้ามเนื้ออย่างช้าๆ ไม่หักโหม แต่ก็มีคำถามว่า หากป่วยและบาดเจ็บแบบนี้แล้ว ควรจะเลือกวิธีการออกกำลังหรือ เครื่องออกกำลังกาย แบบไหนดีที่สุดในการบำบัดและแก้ไขปัญหาของโรคนี้
แนวทางการรักษา ในขณะที่เกิดอาการให้พบแพทย์เพื่อปรึกษาหาแนวทางการรักษาและรักษาด้วยการใช้ยา ควบคู่กับการประคบร้อนประคบเย็น และพยายามอย่าให้ส่วนที่บาดเจ็บรับน้ำหนักมากจนเกินไป อาจะใช้ไม้เท้าในการช่วยประคองการเดิน รอจนอาการทุเลา จึงเข้าสู่กระบวนการขั้นต่อไปเพื่อฟื้นฟูและบำบัดด้วยการออกกำลัง
เริ่มจากการลดน้ำหนักตัวก่อน เพราะน้ำหนักตัวที่มากเป็นภาระที่ทำให้ฝ่าเท้าต้องรองรับน้ำหนักมาก การลดน้ำหนักทำได้ด้วยการควบคุมอาหารลดปริมาณน้ำตาลแป้ง ให้มีพลังงานเข้าสู่ร่างกายน้อยลงปรับพฤติกรรมการบริโภค
จากนั้นเริ่มออกกำลังกายซึ่งสำคัญมาก การออกกำลังกายจะช่วยทั้งการลดและควบคุมน้ำหนักรวมถึงเพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อและเส้นเอ็น ให้เลือกกิจกรรมที่ไม่มีแรงกระแทกลงสู่เท้า เช่น การว่ายน้ำ การเดินเบาๆ หรือการปั่นจักรยาน หากมีอาการมาก ขอแนะนำให้เป็นการว่ายน้ำในสระที่น้ำไม่ลึกมากนัก หรือ ปั่นจักรยานออกกำลังกาย อยู่กับที่ ซึ่งไม่มีแรงกระแทก จะเป็นวิธีการออกกำลังกายที่ค่อยๆ ฟื้นฟูสภาพและเสริมความแข็งแรงให้กับเส้นเอ็นและกล้ามเนื้อของผู้ป่วยได้เป็นอย่างดี
การจะออกกำลังกายแบบไหน หรือใช้ เครื่องออกกำลังกาย อะไรดี อยู่ที่ระดับอาการและความพร้อมของผู้ป่วย แต่ที่สำคัญคือต้องพบายามออกกำลังกายในแบบที่ไม่มีแรงกดกระแทกลงที่เท้ามากนัก และต้องทำอย่างต่อเนื่อง พยายามต่อไปอย่างช้าๆ ไม่นานอาการก็จะดีขึ้นได้แน่นอน
หน้าที่เข้าชม | 933,594 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 605,696 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 13 ก.ย. 2568 |