การออกกำลังกายเป็นการนำพลังงานของร่างกายออกมาใช้ หนักเบาว่ากันไปตามส่วนของการเผาผลาญใช้พลังงานของกิจกรรมการออกกำลังแต่ละชนิดและสภาพร่างกายของผู้ออกกำลังกายแต่ละคน เมื่อการออกกำลังกายคือการนำพลังงานออกมาใช้ การรับประทานอาหารก็คือการเติมเชื้อเพลิง หรือการรับพลังงานเข้าไปในร่างกาย ทั้งสองส่วนนี้ต้องสอดคล้องกัน และต้องเหมาะสมตามจุดประสงค์ของผู้ที่ออกกำลังกาย อาทิเช่น ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก คือพอใจในน้ำหนักแล้วไม่ต้องการลดหรือเพิ่มมากกว่านี้ อาหารที่กินเข้าไปต้องพอเหมาะไม่มากไม่น้อยเกินไป คือใช้ไปเท่าไหร่ กินไปประมาณนั้น น้ำหนักก็จะอยู่คงที่ ส่วนผู้ที่ต้องการลดน้ำหนัก การใช้พลังงานต้องมากกว่าอาหารที่รับเข้าไป แต่ในกลุ่มนี้ไม่ควรออกกำลังกายหนัก เพราะการที่ได้รับอาหารและพลังงานน้อยกว่าที่ออกกำลังกายแล้ว กล้ามเนื้อจะเสียหายง่าย ควรเน้นไปที่การลดอาหาร ออกกำลังกายเบาๆ สักหน่อยเพื่อช่วยเผาผลาญให้ดีขึ้นอย่าออกกำลังกายหนักเพราะร่างกายจะทนไม่ไหว อาจเกิดการบาดเจ็บขึ้นได้ และหลักการนี้ใช้ได้กับการออกกำลังกายทุกประเภท ทั้งการออกกำลังกายทั่วไป และการออกกำลังกายด้วย อุปกรณ์ฟิตเนส ในบ้านหรือสถานฟิตเนสทั้งหลาย
อาหารที่ควรทานก่อนการออกกำลังกาย
ก่อนออกกำลังกายควรมีการรับทานอาหารก่อนสักเล็กน้อย เพื่อให้ร่างกายไม่ถึงกับขาดพลังงานซึ่งอาจส่งผลตามมาคือกล้ามเนื้อเสียหายเนื่องจากต้องดึงพลังงานออกไปใช้มากเกินไป อาหารที่เหมาะสมควรเน้นที่ย่อยง่าย อาจจะเป็นกล้วยหอมที่มีคาร์โบไฮเดรตนิดหน่อย น้ำตาลเล็กน้อย เพียงพอต่อการใช้งาน ส่วนอาหารประเภทโปรตีนสูงหรือไขมัน ยังไม่ควรทาน เพราะต้องใช้เวลามนการย่อยนาน 3-4 ชั่วโมง
อาหารที่ควรทานหลังออกกำลังกาย
จะเรียกว่าเป็นอาหารสำหรับบำรุงฟื้นฟูก็ได้ ถ้าไม่ได้ออกกำลังกายหนักมากแบบนักกีฬาอาชีพ อาจจะเป็นลักษณะการปั่น จักรยานออกกำลังกาย สัก 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมงที่บ้าน ก็อาจจะทานอาหารที่มีคาร์โบไฮเดรตกับผลไม่อย่างละครึ่ง คำนวณเอาตามปริมาณการเผาผลาญพลังงานที่เราใช้ไป
นี่เป็นวิธีทานอาหารที่ถูกต้องตามหลักโภชนาการสำหรับ คนออกกำลังกาย ที่ควรควบคุมให้เหมาะสมมากไปไม่ดี ยิ่งคนลดน้ำหนักก็จะไม่ลด แต่น้อยเกินไปก็ไม่ได้ เพราะจะทำให้ร่างกายเกิดอาการบาดเจ็บ
หน้าที่เข้าชม | 933,594 ครั้ง |
ผู้ชมทั้งหมด | 605,696 ครั้ง |
ร้านค้าอัพเดท | 13 ก.ย. 2568 |